วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สถานที่พิสูญรักแท้คับ

ผาหล่มสัก

น้ำตกเพ็ญพบใหม่  
น้ำตกโผนพบ  
น้ำตกถ้ำสอเหนือ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก เว็บไซต์ พรสวรรค์ สุภาพ, pirun.ku.ac.th


         ว่ากันว่า....หากอยากพิสูจน์รักแท้ ให้พาคนที่เรารักไปร่วมพิสูจน์รักด้วยการเดินทางพิชิตยอดภูของอุทยานแห่ง ชาติภูกระดึง และถ้าหากเขาคนนั้น สามารถร่วมเดินทางไปกับคุณจนกระทั่งถึงยอดดอย และคอยช่วยเหลือดูแลกันและกัน เป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ เขาก็คือรักแท้ของเราเป็นแน่แท้!!!

         ...นี่ คือตำนานคำกล่าวขานที่มักได้ยินเสมอๆ เมื่อเอ่ยถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการที่เราจะขึ้นไปถึงยอดดอยได้ ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร คือขึ้นเขา 5 กิโลเมตร บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร (โห...ไหวไหมเนี่ย) ซึ่งนอกจากจะมีคู่รักไปสัมผัสพิสูจน์รักแท้แล้ว ภูกระดึงมักจะได้รับความนิยมในการไปแบบกลุ่มเพื่อนๆ อีกด้วย และทุกคนที่ได้ไปสัมผัสต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนเดินเหนื่อยมากๆ แต่พอได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติข้างบนภูกระดึงแล้วคุ้มค่าสุดๆ 

         แหม ... มีเสียงการันตีความท้าทาย ผจญภัย และน่าไปสัมผัสแบบนี้คงอดใจไม่ได้แล้วที่จะไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภูกระดึง … เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักอุทยานแห่งนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ

         ภู กระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพทั่วไปของภูกระดึง ประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี บนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยว ปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึง สักครั้งหนึ่งในชีวิต

         สำหรับ การเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้น ทางอุทยานฯ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00 - 14.00 น. ของทุกวัน และหลังจากเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ทางอุทยานฯ จะไม่อนุญาต เพราะระยะทางในการเดินทางขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้า ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้น อาจจะทำให้เกิดความยากลำบาก อีกทั้งอาจได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าที่ออกหากินในเวลากลางคืนอีกด้วย
          อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย จะเปิดฤดูท่องเที่ยวอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 - 31 พฤษภาคม 2554 หลังปิดฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน

ซืนวาน คับท่าน

3
จังหวัดอุบลราชธานี…ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดหนึ่งของภาค อีสาน ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและหลากหลาย เช่น ผาแต้ม ดงป่านาทาม เสาเฉลียง น้ำตกลงรู แก่งตะนะ ช่องเม็ก แม่น้ำสองสี เขื่อนปากมูล และอีกหลายสถานที่ที่มีชื่อเสียงมานาน
ซึ่งวันนี้ ทีมงาน TLC ของเรา ขอแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ นาม “ซืนวานและ คำว่า “ซืนวาน” เป็นการสลับคำกับคำว่า “วานซืน” หมายถึง วันที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นคำท้องถิ่นของภาคอีสาน ที่นำมาใช้ตั้งชื่อสถานที่ท่องเทียวแห่งนี้ เพื่อให้จดจำได้ง่ายและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยสื่อความหมายไปถึงยุคเก่าก่อน แถมได้ผสานกับความใหม่ร่วมสมัย พร้อมกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมของคนภาคอีสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวเป็น อย่างดี
2
ซืนวาน จึงเป็นที่มาจากการบอกเล่าเรื่องราวของคุณพ่อคุณแม่ถึงความหลัง เมื่อครั้งยังเยาว์วัย ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยการนำข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ มาประกอบเป็นเรื่องราว และแนวคิดย้อนความหลังอันแสนหวาน โรแมนติก นั่นจึงเป็นที่มาของ Community Mall แห่งใหม่ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่เรียกว่า “ซืนวาน”  นั่นเอง
แสงเงาของซืนวาน

ซืนวาน หรือ ตลาดซืนวาน ตั้งอยู่ที่ 305  ถ.สถลมาร์ค อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยมีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เศษๆ ประกอบไปด้วยอาคารไม้ชั้นเดียวสีน้ำตาลเข้ม ที่ชวนให้เราๆหวนระลึกถึงบ้านหลังเก่าอันแสนอบอุ่น เสริมเติมแต่งด้วยสิ่งคุ้นเคยเมื่อวันวาน โดยการนำข้าวของเครื่องใช้ต่างๆในอดีต เช่น ผ้าขาวม้า กระติบข้าวเหนียว หรือของที่เป็นเอกลักษณ์อื่น ๆ รวมไปถึงวิถีชีวิตของชนชาว จังหวัดอุบลฯ มาประกอบเป็นเรื่องราว ภายใต้บรรยากาศของต้นไม้และดอกไม้ เติมเต็มเป็นความร่มรื่น รวมทั้งร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านกาแฟสด โซนร้านอาหาร โซนขายเสื้อผ้า และขายของที่ระลึก ที่มีให้ทุกท่านได้เลือกชมและเลือกชิมกันได้อย่างเพลิดเพลินเลยครับ
ซืนวาน2ซืนวาน3
นอกจากจะชิม ช้อป แบบชิลๆแล้ว ภายใน ซืนวาน ยังมีจุดขายที่สำคัญ ก็คือการปลดปล่อยอารมณ์ไปกับการเดินชม เดินเที่ยว พร้อมถ่ายรูปแนว ๆ ไปกับบรรยากาศของเก่า ๆ สมัยอดีตรอบ ๆ ตัว (สำหรับคนชอบถ่ายรูปแนวนี้ไม่ควรพลาด)  ซึ่งช่วยขุดคุ้ยเรื่องราวความทรงจำสมัยเด็กๆ  โดนใจทั้งวัยผู้ใหญ่หรือวัยเด็ก อาทิเช่น โมเดลยอดมนุษย์อุลตร้าแมน, โมเดลอีที มนุษย์ต่างดาวจากหนังอมตะกว่า 3 ทศวรรษก่อน, เก้าอี้ร้านตัดผมสมัยคุณพ่อไปโรงเรียน, ตู้ไปรษณีย์สีแดงสดรูปทรงแปลกตา, วิทยุ-โทรทัศน์ ในยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่เกิด หรือโปสเตอร์ภาพวาดภาพยนตร์ในหลายสิบปีก่อนสีสันสดใส โดยของเก่าที่นำมาตกแต่งเพิ่มเติมบรรยากาศความหลังทั้งหมดนั้น ประมาณร้อยละ 80 คือของสะสมที่เก่าจริง ส่วนที่เหลือเป็นของเก่าผลิตใหม่ เนื่องจากหายากในปัจจุบันแต่ทุกอย่างก็ล้วนเข้ากันได้อย่างกลมกลืนในซืนวาน แห่งนี้
ซุปเปอร์ฮีโร่พี่เสือใจดี
นอกจากจะมีสินค้าให้เลือกซื้อกันแบบจุใจแล้ว ที่ ซืนวาน ยังมีการจัดจุดให้ทุกท่านได้ถ่ายรูปในมุมต่างๆ เพื่อเก็บเอาไว้บันทึกเป็นความทรงจำและให้ความรู้สึกกลายเป็นวัยรุ่น เหมือนได้ย้อนวัยหนุ่มไปอีกครั้ง กับบรรยากาศในอดีตสมัยรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย ที่ใช้ของเก่าเก็บที่ยังหลงเหลืออยู่ และของเก่าที่ผลิตขึ้นมาใหม่ มาผสมกลมกลืนให้แปลกใหม่ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ชมแล้วเพลิดเพลินดีครับ
เครื่องฉายหนังโบราณรวมภาพ ซืนวาน1
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใด ที่สนใจหรือมีโอกาสได้แวะเวียน ไปเที่ยวที่จังหวัดอุบลราชธานี ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวที่ “ซืนวาน” ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 20.00 น.
โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของซืนวาน  ได้ที่  http://www.facebook.com/zuenwan

ทางทีมงานขอนำข้อมูลบางส่วนจาก ซืนวาน ไว้เืพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกท่านที่จะได้ไปเยือน ซืนวาน กันครับ
ซืนวาน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ยังไม่ได้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการนะครับ เพียงเปิดให้เข้าชมบางส่วนที่แล้วเสร็จเท่านั้น สามารถเข้าเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ  ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น.-๒๐.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใดเลยครับ
บริเวณด้านหลัง shop ขายของที่ระลึก
รถเครื่องโบราณ
ส่วนการถ่ายภาพนั้น สามารถถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ยก เว้นถ่ายรูปโดยสตูดิโอ หรือการถ่ายพรีเว็ดดิ้ง(ทุกกรณี) การถ่ายภาพทางธุรกิจต่างๆ การใช้อุปกรณ์เช่นขาตั้งกล้อง แฟลช และอุปกรณ์อื่นๆตั้งแต่สามชิ้นขึ้นไป และมีทีมงานถ่ายภาพที่มีมากกว่าหนึ่งคน ในส่วนนี้ให้ติดต่อขอเข้าใช้สถานที่ก่อน และมีค่าธรรมเนียมในการเข้าใช้ ๕๐๐ บาท ทั้งนี้มิให้เคลื่อนย้ายวัตถุอุปกรณ์ต่างๆจากที่ตั้งเดิม หรือขึ้นไปเหยียบบนตู้ โซฟา เก้าอี้ ฯลฯ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งของและสถานที่ได้ (การถ่ายภาพที่มีอุปกรณ์ และทีมงานตามที่ได้กล่าวข้างต้น เข้าได้เฉพาะจันทร์-ศุกร์ ) เบอร์ติดต่อ ๐๙-๐๘๘-๐๗๗๑๕-๘ …

“ตู้ไข่หยอดเหรีญโบราณ” ที่เราหลายๆคน เคยเห็นสมัยเป็นเด็ก บางคนไม่รู้จัก บางคนเคยเล่น และบางคนอาจต้องคิดถึงความหลังกันเลยทีเดียวครับ และสำหรับแฟนๆที่มาเยี่ยมซืนวาน มาลองเล่นกันได้ ที่ร้านไอติมของเรา ด้านในไข่ลูกกลมๆมีของเล่นชิ้นเล็กๆหมือนสมัยก่อน และถ้าโชคดี มีกระดาษใบน้อยที่เขียนข้อความด้านในว่าฟรีไอติม ซืนวานแจกไอติมฟรีให้หนึ่งโคนครับผม
ตู้ไข่หยอดเหรีญโบราณ
รถสามล้อเครื่อง หรือรถตุ๊กๆ
เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2503 โดยนำเข้ามาจากหลายประเทศ แต่ส่วนใหญ่นั้นมาจากประเทศญี่ปุ่นจนไทยเราสามารถผลิตได้เอง แต่หลังจากปี 2530 มีกฎหมายห้ามจดทะเบียนรถตุ๊กตุ๊กรับจ้างเพิ่ม ทำให้รถตุ๊กๆมีจำนวนจำกัดและน้อยลงเรื่อยๆ ไม่แน่ว่าอนาคตเราอาจจะไม่มีรถตุ๊กๆให้เห็นบนท้องถนน ปีนี้ 2013 ซืนวาน จึงขอนำรถตุ๊กๆมาประจำไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อให้แฟนๆได้มาถ่ายรูปกับรถตุ๊กๆสวยๆ เก็บภาพถ่ายไว้เป็นที่ระลึกกันครับ
รวมภาพ รถตุ๊กๆ ซืนวาน

ซืนวาน ขอแนะนำ “สวาดิ โรตีมะตะบะ” สุดยอดวัฒนธรรมอาหารของชาวมุสลิมแท้ๆ ต้นตำรับจากจังหวัดปัตตานี ซึ่งนำแป้งโรตีอย่างดีมาห่อด้วยเครื่องเทศและเนื้อไก่ ทอดด้วยเนยพร้อมทานกับอาจาด(น้ำจิ้ม) อร่อยอย่าบอกใครเลยครับ และเมื่อได้ทานคู่กับกาแฟหอมๆจากร้านกาแฟนัวแล้ว สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดีเลยครับผม ..
สวาดิ โรตีมะตะบะ
พบกับโรตีคุณภาพจาก จากร้าน “สวาดิโรตีมะตะบะ” ได้แล้ววันนี้ ที่ซืนวาน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีครับผม ..

และภายใน ซืนวาน ยังมี “ร้านกิาแฟนัว” และ  “ร้านไอศกรีมยิ้มแย้ม” ไอศกรีมรสชาติไทยๆ ร่วมสมัยในสไตล์ฟิวชั่น เปิดให้บริการแล้วครับ พระเอกสำหรับฤดูร้อนนี้ก็คือ ไอศกรีมรสมะม่วงซึ่งมีข้าวเหนียวและกะทิ เป็นเครื่องเคียง ทำให้หลายๆคนติดใจไปตามๆกัน นอกจากนั้นเรายังมีรสทุเรียน,ถั่วดำ,ลอดช่อง และกะทิไว้ให้บริการด้วยครับ
ร้านกาแฟนัว

สำหรับน้องๆนักศึกษา หรือแฟนเพจ ที่นิยมชมชอบการเดินทางด้วยรถโดยสารสองแถว ทางทีมงาน ซืนวาน ขอแนะนำ รถสองแถวสาย ม.อุบลฯ ซึ่งจุดขึ้นรถหลักๆ ก็คือ บขส. อุบลราชธานี , ร.ร.สามัคคี, หน้าห้างฯรวมสินไทย,ตลาดวาริน,ตลาดเจริญศรี,มหาวิทยาลัยอุบลฯ หากทุกท่านเดินทางมาจากตัวเมืองอุบลฯ ซืนวาน ของเราจะอยู่ด้านซ้าย และถ้าหากมาจากมหาวิทยาลัยอุบลฯ ซืนวาน จะอยู่ด้านขวา สนนราคาค่าบริการ 10 บาทตลอดสายครับผม …

การเดินทางไป ซืนวาน
ถนนสถลมาร์ค (วารินฯ-เดชอุดม) หรือทางหลวงหมายเลข 24 โครงการตั้งอยู่ระหว่าง แยกกกแต้ และ ธกส.วาริน ( เลยแยกกกแต้ มาประมาณ 500 เมตร อยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วน ธกส.วารินอยู่เลยไปอีกประมาณ 300 เมตร อยู่ด้านขวามือครับ )
โทรศัพท์ : 0908807715-8 , 0863240764
เว็บไซต์ : http://www.facebook.com/zuenwan

สถานที่ท่องเที่ยวศรีสะเกษบ้านเรา

สถานที่ท่องเที่ยวประเภทแหล่งวัตถุโบราณและวัด
วัดสระกำแพงใหญ่
นารายณ์บรรทมสินธุ์นอนตะแคงซ้าย และตัวนาคเป็นแบบบาปวน และที่เท้าของ
พระนารายณ์ จะมีศักติ 2 องค์ คือ นางลักษมี และนางภูมิ
วัดสระกำแพงใหญ่
ปราสาทแห่งนี้ได้พบทับหลังประมาณ 9 ชิ้น และชิ้นที่สำคัญสันนิฐานว่าเป็นของปรางค์องค์ทิศเหนือ
เป็นรูปคชลักษมี ซึ่งไม่ค่อยพบในประเทศไทย การสลักเป็นรูปคชลักษมี หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ คชลักษมีมีลักษณะเป็นรูปช้าง 2 ตัว หันหน้าเข้าหากันและงวงประสานกันเป็นรูปวงกลมภาย
ในรูปพระนางลักษมี สำหรับหลังที่ปรางค์องค์ประธานจะสลักเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
และสำหรับทับหลังชิ้นอื่น ๆ เช่น พระกฤษณะประลองกำลังต่าง ๆ นา ๆ

วัดสระกำแพงใหญ่
ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านสระกำแพงใหญ่ ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
ก่อสร้างประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 16 ถึงพุทธศตวรรษที่ 16 ตอนปลายเป็นศาสนสถาน
ในศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย และจากการพบเทพนพเคราะห์ชิ้นหนึ่งสันนิษฐานว่าใช้งาน
สะเดาะห์ ใช้วางอดกบัวแต่ละดอก และก็พบพระพุทธรูปนาคปรกองค์หนึ่งเป็นศิลปแบบนายน
จึงอาจสันนิษบานได้ว่าเมื่อพ้นสมัยศาสนาพราหมณ์ไปแล้วคือ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
ที่เข้ามาปกครองแถบนี้ก็เปลี่ยนศาสนาจากศาสนาพราหมณ์เป็นศาสนาพุทธมหายาน
กู่สมบูรณ์
อยู่บริเวณบ้านหนองคูใหญ่ ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นปราสาทสามหลังบนฐานศิลาแลงเดียวกัน ปราสาทก่อนด้วยศิลาแลงร่วมกับอิฐ ก่อด้วยศิลาแลง
ด้านใน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตัวปราสาททั้งหมดล้อมรอบด้วยคูน้ำรูปเกือกม้าเว้นทางเข้า
ด้านทิศใต้ สันนิษฐานว่าปราสาทแห่งนี้คงจะสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรณที่ 17 ปัจจุบันกรมศิลปากร
ได้ขึ้นทะเบียนและบูรณะซ่อมแซม ตำบลเป๊าะ อำเภอบึงบูรพ์ จังหวัดศรีสะเกษ
พระพุทธบาทภูฝ้าย
ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านภูฝ้าย ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระพุทธบาทภูฝ้าย ตั้งอยู่บนเขาภูฝ้าย
โดยการสร้างจำลองขึ้นของพระในวัดบนภูเขาภูฝ้ายขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ในทุก ๆ ปี
จะมีราษฎรจากตำบลต่าง ๆ ไปทำบุญ และกราบไหว้เป็นประจำทุกปี ปัจจุบันบนเขาภูฝ้าย
ได้จดทะเบียนจากกรมศิลปากร พื้นที่ 1,415 ไร่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนภูเขาสูง มีสำนัก
สงฆ์ 1 แห่ง พระภิกษุ 2 รูป สระน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และรอยพระพุทธบาทจำลอง
ตลอดจนสัตว์ป่า เช่นลิง
วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)
ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านดอน ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2524 โดยมีพระครูวิเวกธรรมจารย์ (รอด) ถิรคุโณ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรกจนถึงปัจจุบัน พื้นที่
บริเวณวัด 18 ไร่ พระภิกษุ 8 รูป สิ่งปลูกสร้างมีอุโบสถ (ริมน้ำ) 1 หลังศาลาการเปรียญ
1 หลัง กุฎิ 8 หลัง ์ ศาลาเอนกประสงค์ 1 หลัง

เป็นศาสนสถาน และสิ่งก่อสร้าง ในบริเวณวัดประดับตกแต่งด้วยขวดแก้ว หลากสีหลาย
แบบนับล้าน ๆ ขวด ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม และร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก
วัดบ้านพราน (วัดสุพรรณรัตน์)
เป็นวัดเก่าแก่ของตำบลพราน โดยมีจำนวนหมู่บ้าน 5 หมู่บ้าน ร่วมกิจกรรม และเป็นสถานที่
ที่จัดงานบุญของตำบลพราน เช่น ประเพณีสารทเขมร (แซนโดนตา) มีทับหลังนารายณ์บรรทมสิน

วัดสำโรงเกียรติ (หลวงพ่อตาตน)
เป็นพระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะของชาวอำเภอขุนหาญ มีชาวบ้านไปบนบานศาล
กล่าวให้ท่านช่วย คลายทุกข์ ดับโศก พ้นภัย แต่ละปีมีมาก
ปราสาทปรางค์กู่
ตั้งอยู่ที่บ้านกู่ อ.ปรางค์กู่ ห่างจากตังจังหวัดศรีสะเกาประมาณ 70 กิโลเมตร ปรางค์องค์นี้สร้างด้วยแผ่นอิฐเรืยงเป็นโต ๆ เหมือนปราสาทศรีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
ซึ่งเป็นศาสนสถานสมัยขอมที่เก่าแก่มากมีอายุกว่าพันปีหน้าบริเวณปรางค์กู่มีสระ
น้ำกว้างยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นทำเลพักหากินของนกพันธุ์ต่าง ๆ ฝูงใหญ่
ปราสาทปรางค์กู่
พระพุทธเจดีย์ไพรพึง
ตำบลไพรบึง อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ
หลวงพ่อปูนปั้น
วัดบ้านไพรบึง
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธเจดีย์ไพรบึงซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมตามแบบ พุทธคยา
ของอินเดีย ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่สักการะของชาวศรีสะเกษ
นอกนั้นยังมีโบสถ์เก่า อายุราว 50 ปี รูปแบบสถาปัตยกรรมของช่างเขมรโบราณ
สวยงามมากภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอไพรบึง
วัดบูรพามหาพุทธาราม
เป็นวัดเก่าแก่ เป็นที่นับถือของคนในตำบล ภายในบริเวณวัดจะมีต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่น
และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่ที่ ม. 4 บ้านพราน
ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
วัดถ้ำสระพงษ์
วัดถ้ำสระพงษ์ตั้งอยู่ภายในโครงการทับทิมสยาม 06 บ้านนาจะเรีย หมู่ที่ 13
อยู่ทางทิศใต้ของตำบลตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมรัก มีทัศนียภาพที่สวยงาม ภาย
ในวัดมีน้ำตก และถ้ำ
วัดถ้ำสระพงษ์
พุทธสถานศีรษะอโศก
ตั้งอยู่หมู่ที่ 15 บ้านศีรษะอโศก ตำบลกระแซง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศึกษาดูงาน
พุทธสถานศีรษะอโศก
พระธาตุเรืองรอง
ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3 บ้านสร้างเรือง ต.หญ้าปล้อง อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ
เป็นพระธาตุที่สร้างแบบศิลปะพื้นบ้าน สูง 49 เมตร แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ชั้นที่ 1
ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา ชั้นที่ 2 - 3 ทำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชนสีเผ่า
ของศรีสะเกษ คือ เขมร ส่วย ลาว เยอ ชั้นที่ 4 ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ ชั้นที่ 5
ใช้สำหรับการทำสมาธิ ชั้นที่ 6 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ชม
ทัศนียภาพของพื้นที่
ภาพสลักหินนูนต่ำอยู่บริเวณ ผามออีแดง อ.กันทรลักษ์
ภาพสลักหินนูน ต่ำศิลปะเขมรอายุราวศตวรรษที่
15 สันนิษฐานว่า เก่าแก่ที่สุดใน ประเทศไทย ปรางค์ศิลาช่องโดนตวล ตั้งอยู่ริมหน้า
ผาสูงชัน บนเทือกเขาพนมดงรักใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา ห่างจากบ้านภูมิซรอลไป 8 กิโลเมตร
หรือ ห่างจากตัวอำเภอกันทรลักษณ์ ประมาณ38 กิโลเมตร เป็นปราสาทขอมขนาดเล็กประกอบ
ด้วยปรางค์รูปสี่เหลี่ยมย่อมุม ก่อด้วยอิฐ ซุ้ม ประตูก่อด้วยศิลา และมีรูปสิงโตจำหลักอยู่หน้าปราสาท